สวัสดีครับ พบกันอีกเช่นเคย กับผม ดลรวี ภัทรกุลพิมล อาสาปศุสัตว์ดีด่น
ระดับจังหวัดกรุงเทพมหานคร นะครับ
สำหรับบทความนี้เป็นบทความประกอบคลิปนะครับ (ชมคลิปประกอบ คลิ๊กที่นี่ https://youtu.be/kcz86OHS9lQ ) เหตุผลที่ผมทำบทความและคลิปที่ผมทำขึ้นในช่วงนี้
เพราะว่ามีข่าวใหญ่ของการระบาดโรคสัตว์เกิดขึ้นครั้งใหม่
ซึ่งไม่เคยพบการระบาดในเมืองไทยมาก่อน
ครั้งนี้เป็นการระบาดครั้งแรกในเมืองไทยของเรา นั้นก็คือ
โรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า หรือที่เรียกกันว่า African Horse sickness
หลายๆท่านคงทราบกันดีอยู่แล้วนะครับ ว่ามีการระบาดในม้า ล้มตายกันหลายสิบตัว ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
ซึ่งพบการติดเชื่อไวรัสตัวนี้ในม้า วันที่ 24 มีนาคม 2563
พบการแสดงอาการของโรคในม้า วันที่ 25 มีนาคม 2563
และม้าเสียชีวิตจำนวนมากในวันที่ 25-26 มีนาคม 2563
ซึ่งถือว่าเป็นการติดเชื่อที่เร็ว ฉับพลันและรุ่นแรงมาก
คือม้าได้รับเชื่อโรคจำนวนมากนั้นเอง ผมในฐานะ อาสาปศุสัตว์
ได้รับคำถามมามากในช่วงนี้ คงเพราะเป็นช่วงที่มีการระบาดของไวรัส COVID-19
ร่วมอยู่ด้วย และหลายท่านคงเกิดความวิตกกังวล ว่าเกี่ยวข้องกันไหม
โรคนี้จะแพร่สู่คนหรือไม่ จะไปซ้ำเติมกับเหตุการทมี่เป็นอยู่หรือไม่
ผมขอตอบตรงนี้เลยนะครับว่าประเด็นม้าที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
ล้มตายยืนยันว่าสถานการณ์การระบาดของโรคที่เกิดขึ้น
“เป็นโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า “ไม่ใช่โรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน
และไม่ใช่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า2019 หรือ COVID-19 นะครับ
มีคำยืนยันจากท่านอธิปดีกรมปศุสัตว์แล้วนะครับ ซึ่งผมจะมีคำแถลง
และการให้สำภาษณ์สื่อมวลชนของท่านให้ชมกันในคลิปนี้ด้วยนะครับ
เพื่อเป็นการยืนยัน และเพื่อความสบายใจของทุกท่านนะครับ
จะได้ไม่ต้องวิตกกังลเกี่ยวโรคนี้..ก่อนอื่นเรามาทำเข้าใจกันให้มากขึ้นเรามาทำความรู้จักกับโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า
- African Horse sickness นี้กันก่อนนะครับ ว่าคืออะไร...
สาเหตุ ของโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า - African Horse sickness
เกิดจากเชื้อไวรัส RNA ชนิดไม่มีเปลือกหุ้ม family Reoviridae genus
Orbivirus เชื้อนี้ถูกยับยั้งได้ด้วยความร้อนมากกว่า 140F
สารละลายฟอร์มาลิน Propriolactone อนุพันธ์ของ acetylethyleneimine หรือ
การฉายรังสีและถูกทำลายได้ด้วยความเป็นกรดด่างที่ pH น้อยกว่า 6
หรือมากกว่า 12 นอกจากนี้สามารถใช้น้ำฆ่าเชื้อที่มีฤทธิ์เป็นกรดเช่น
2%กรดอะซิติก หรือ กรดซิตริก ในการฆ่าเชื้อโรคได้...
สัตว์ที่ไวต่อการเกิดโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า - African Horse sickness
พบการระบาด ใน ม้า ลา ล่อ ม้าลาย อูฐ และสุนัข
โดยมักทำให้ม้าและล่อแสดงอาการป่วยรุนแรงและตาย
ส่วนในลาและม้าลายจะแสดงอาการแบบไม่รุนแรงทั้งนี้ไม่พบรายงานการติดต่อจากสัตว์สู่คน
และพบการระบาดน้อย ใน อูฐ และสุนัข มีระยะฟักตัวของโรคนี้ ประมาณ
2-21วัน
การระบาดของโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า - African Horse sickness
ก่อนหน้านี้ไม่มีรายงานการเกิดโรคนี้ในประเทศไทย
แต่พบรายงานการเกิดโรคในทวีปแอฟริกา ตะวันออกกลาง ประเทศอียิปต์ สเปน
โปรตุเกส โมร็อกโค ปากีสถาน และอินเดีย -
ล่าสุดพบโรคนี้ระบาดในม้าของเมื่องไทย ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
ในวันที่ 24 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา พบเป็นครั้งแรกในเมืองไทย
การติดต่อของโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า - African Horse sickness
1.จากการถูกแมลงกัด เช่น ตัวริ้น genusCulicoidesได้แก่ Culicoides imicola และ Culicoides bolitinosยุง และแมลงวันดูดเลือดใน genus Stomoxys และ Tabanus
2.สัตว์ที่กินเนื้อ สามารถติดโรคจากการกินเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อ
1.จากการถูกแมลงกัด เช่น ตัวริ้น genusCulicoidesได้แก่ Culicoides imicola และ Culicoides bolitinosยุง และแมลงวันดูดเลือดใน genus Stomoxys และ Tabanus
2.สัตว์ที่กินเนื้อ สามารถติดโรคจากการกินเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อ
อาการของ โรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า - African Horse sickness
สัตว์ที่ติดเชื้อโรคกาฬโรคแอฟริกา จะแสดงอาการได้ 4 รูปแบบ คือ
1.แบบเฉียบพลันรุนแรง (peracute หรือ pulmonary form)
สัตว์จะมีไข้สูง และแสดงอาการทางระบบทางเดินหายใจอย่างรุนแรง รูจมูกขยาย ยืดคอไปข้างหน้า หายใจลำบาก ไอ มีน้ำมูกเป็นฟองสีเหลืองขุ่น (frothy serofibrinous) สัตว์จะตายภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังจากแสดงอาการ
2.แบบกึ่งเฉียบพลัน (subacuteedematousหรือ cardiac form)
สัตว์จะมีไข้สูงประมาณ 3-6 วัน หลังจากนั้นไข้จะลดลง และมีอาการบวมน้ำบริเวณขมับ (supraorbitalfossae) เปลือกตา แก้ม ริมฝีปาก ลิ้น บริเวณขากรรไกร คอ ไหล่ และหน้าอก แต่ไม่พบการบวมน้ำที่ส่วนล่างของลำตัว เช่น ขา นอกจากนี้จะมีอาการซึม เสียดท้อง มีจุดเลือดออกบริเวณลิ้น และ เยื่อบุตา สัตว์จะตายจากภาวะหัวใจล้มเหลว หากสัตว์หายป่วย อาการบวมน้ าจะลดลงใน 3-8 วัน
3.แบบเฉียบพลัน (acute หรือ mixed form)
สัตว์จะแสดงอาการทั้งทางระบบทางเดินหายใจ และมีภาวะบวมน้ำ
4.แบบไม่รุนแรง (horsesickness fever)
สัตว์จะมีไข้ประมาณ 3-8 วัน โดยไข้จะลดในตอนเช้าและมีไข้สูงในตอนบ่ายอาการอื่นๆที่อาจพบได้ คือ ซึม เบื่ออาหาร บวมน้ำบริเวณขมับ เยื่อเมือกมีจุดเลือดออก และหัวใจเต้นเร็ว สัตว์ที่ป่วยแบบไม่รุนแรงมักหายจากอาการป่วยได้
สรุปการพบร่องรอยของโรคจากการผ่าซากในกรณีการเกิดโรคแบบเฉียบพลันรุนแรง (peracute หรือ pulmonary form) พบการบวมน้ำของปอด และมีน้ำในช่องอก ส่วนการเกิดโรคแบบเฉียบพลัน มักพบของเหลวเป็นฟองตั้งแต่โพรงจมูกจนถึงปอด ต่อมน้ำเหลืองบริเวณช่องอกและช่องท้องขยายใหญ่และบวมน้ำ ในกรณีการเกิดโรคแบบกึ่งเฉียบพลัน (subacuteedematousหรือ cardiac form) พบการบวมน้ แบบวุ้น (yellow gelatineous) แทรกในชั้นใต้ผิวหนัง และในกล้ามเนื้อบริเวณหัว คอ และไหล่ พบน้ าใน เยื่อหุ้มหัวใจ (hydropericardium) และกล้ามเนื้อหัวใจมีจุดเลือดออก นอกจากนี้อาจพบการเกิดโรคในทางเดินอาหาร เช่น พบการบวมน้ำ และมีจุดเลือดออกของชั้นเยื่อบุลำไส้ใหญ่ (cecum)
การควบคุมและป้องกันโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า - African Horse sickness
1.ควรตรวจสุขภาพสัตว์เป็นประจำหากพบสัตว์ป่วยต้องแยกออกจากฝูง เพื่อป้องกันการเกิดโรค
2.กำจัดแมลงดูดเลือดที่เป็นพาหะของโรค หรือป้องกันไม่ให้แมลงดูดเลือดสามารถดูดเลือดสัตว์ได้ โดยการให้ม้าอยู่ในคอกที่ใช้มุ้ง หรือตาข่ายในการป้องกันแมลงดูดเลือดโดยเฉพาะในเวลาที่แมลงดังกล่าวออกหากิน เช่น ช่วงเวลาพลบค่ำ ถึงเช้ามืดหรือใช้ยาฆ่าแมลงที่เหมาะสมพ่นบริเวณคอกและตัวม้า
3.กรณีที่มีการระบาดของโรค ต้องมีการควบคุมเคลื่อนย้ายสัตว์เข้า-ออกบริเวณที่เกิดโรค
4.กรณีที่นำสัตว์ใหม่เข้าฝูง ควรกักไว้อย่างน้อย 1 เดือน เพื่อตรวจร่างกายและสังเกตอาการป่วย
5.ทำความสะอาดคอก บริเวณที่เลี้ยงสัตว์ และอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
หมายเหตุ : ในคลิปจะมีคลิปคำแถลงของท่านอธิปดีกรมปศุสัตว์
และการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนนะครับ เพื่อเป็นคำยืนยัน
และเพื่อคว่ามเข้่าใจต่อโรคนี้อย่างถูกต้องนะครับจากคำแถงการและการให้สัมภาษณ์
สื่อต่างๆของท่านอธิบดีกรมปศุสัตว์ นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต
คงจะไขข้อสงสัย และเข้าใจตรงกันแล้วนะครับว่าโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า -
African Horse sicknessโรคนี้ระบาดในสัตว์เท่านั้น ไม่ติต่อสู้คนนะครับ
และไม่เกี่ยวข้อใดๆกับ โรคไวรัส COVID-19 ที่ระบาดกันอยู่นี้นะครับ
ถึงตรงนี้คงจะสบายใจกันแล้วนะครับ สำหรับท่านใดเห็นว่า
บทความและคลิปนี้มีประโยชน์สามารถกดแชร์ และส่งต่อๆ กันไป ได้นะครับ
ผมไม่หวงนะครับสามารถแชร์ได้เพื่อเป็นวิทยทาน
แหล่งความรู้ให้กับคนทั่วไปเข้าใจนะครับ
ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไม่เจ็บไม่ไข้
เงินทองไหลมาเทมากันทุกๆท่านนะครับ
สำหรับบทควมและคลิปนี้ผมขอตัวลาไปก่อนพบกันใหม่ในบทความและคลิปต่อๆไปของผมนะครับ
อย่าลืม กดไล กดแชร์ กด ติดตามกันด้วยนะครับ สวัสดีครับ ...
ดลรวี ภัทรกุลพิมล
อาสาปศุสัตว์ดีด่น ระดับจังหวัดกรุงเทพมหานคร
Facebook : https://www.Facebook.com/LivestockNJ
อาสาปศุสัตว์ดีด่น ระดับจังหวัดกรุงเทพมหานคร
Facebook : https://www.Facebook.com/LivestockNJ
Youtube : https://goo.gl/F6d8A4
website : https://www.anragon.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น